วัคซีนโควิด-19 ปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์และทารกหรือไม่

การฉีดวัคซีนโควิดในหญิงตั้งครรภ์

สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer- BioNTech) สำหรับประชาชนทั่วไป การผลิตและพัฒนาวัคซีนถือว่าเร็วที่สุดเท่าที่วัคซีนเคยมีมา โดยใช้เวลาพัฒนาเริ่มจากแนวคิด ออกมาเป็นตัวผลิตภัณฑ์ภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือน จากปกติที่อาจต้องใช้เวลานาน 10 ปี เช่นเดียวกับวัคซีนอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งก็ทำให้หลายคนยังมีความวิตกกังวลและมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

ปัจจุบันมีคำแนะนำไม่ให้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือหาก วางแผนจะตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือนข้างหน้า แม้จะมีความปลอดภัยในการทดลองวัคซีนโควิดในระดับหนึ่ง และอาการรุนแรงหลังการฉีดวัคซีนเกิดขึ้นในจำนวนคนที่น้อย แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการทดสอบวัคซีนโควิด-19 กับหญิงตั้งครรภ์

ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ควรรอให้คลอดบุตรเสียก่อนแล้วจึงค่อยรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งหากอ้างอิงตามคำแนะนำของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษ ระบุว่า ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกแล้ว ก็ไม่ควรรับวัคซีนเข็มที่สองจนกว่าจะคลอดบุตร

การให้วัคซีนโควิด-19 โดยมากจะเรียงลำดับผู้ที่ควรได้รับตามอายุ โดยจะให้วัคซีนกับคนวัยชราซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดก่อน ดังนั้น สตรีมีครรภ์ก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแรก ๆ อยู่แล้ว อันเนื่องมาจากรายงานเรื่องความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในหญิงตังครรภ์ไม่ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับคนปกติทั่วไป ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 อันเนื่องมาจากมีโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ก็ควรรอจนกว่าจะคลอดบุตรแล้ว จึงค่อยรับวัคซีนโดยเร็วที่สุดหลังจากนั้น