การใช้ยาหลังการตั้งครรภ์จากการทำเด็กหลอดแก้ว ต่างจากการใช้ยาการตั้งครรภ์ธรรมชาติอย่างไร?

การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แพทย์จะต้องดูแลและใช้ยาเพื่อช่วยในการฝังตัวของตัวอ่อน และการพัฒนาการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งจะแตกต่างจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

1. การใช้ยาฮอร์โมน

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • มักให้ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ในรูปแบบยาฉีด ยาสอดช่องคลอด หรือยากิน เพื่อช่วยเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนและช่วยพยุงการตั้งครรภ์ในระยะแรก
  • บางกรณีอาจใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนร่วมด้วย (เช่น Estradiol) เพื่อช่วยรักษาระดับฮอร์โมนให้เหมาะสมกับการตั้งครรภ์
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเองโดยไม่ต้องได้รับฮอร์โมนเพิ่มเติม

2. การป้องกันการแท้ง

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • การตั้งครรภ์จากการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) อาจมีความเสี่ยงต่อการแท้งในช่วงแรกมากกว่าการตั้งครรภ์ธรรมชาติ จึงอาจต้องใช้ยาเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการแข็งตัวของเลือดที่อาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังตัวอ่อน
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • การตั้งครรภ์ธรรมชาติมักไม่ต้องการการใช้ยาประเภทนี้ ยกเว้นแต่ในบางกรณีที่มีปัญหา

3. การปรับสภาพภูมิคุ้มกัน

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • ในบางกรณี อาจใช้ยากดภูมิคุ้มกัน (เช่น Prednisolone) เพื่อช่วยลดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่อาจส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน (Antibody Positive)
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันมักถูกควบคุมตามธรรมชาติในผู้หญิงที่ไม่มีปัญหาภูมิคุ้มกันผิดปกติ

4. ระยะเวลาการใช้ยา

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนมักใช้ต่อเนื่องจนถึง 10-12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ หรือจนกระทั่งรก (Placenta) สามารถผลิตฮอร์โมนได้เองอย่างเพียงพอ
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • ร่างกายจะปรับเปลี่ยนการผลิตฮอร์โมนเองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ยาฮอร์โมนเสริม

5. การตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • ผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มักต้องเข้ารับการตรวจติดตามระดับฮอร์โมนและการพัฒนาของการตั้งครรภ์บ่อยกว่า รวมถึงการตรวจอัลตราซาวด์ในช่วงไตรมาสแรก (1-12 สัปดาห์)
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • การตรวจติดตามอาจเริ่มที่ประมาณ 8-10 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ เว้นแต่จะมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

6. ยาอื่นๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

• เด็กหลอดแก้ว (IVF) :
  • อาจใช้ยาเสริม เช่น วิตามิน D, กรดโฟลิก, และยาอื่นๆ ตามข้อบ่งชี้เฉพาะตัว
• การตั้งครรภ์ธรรมชาติ :
  • อาจมีการแนะนำวิตามินหรืออาหารเสริมตามปกติ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสนับสนุนพิเศษ

โดยการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มีความซับซ้อนกว่า ดังนั้นจึงต้องการการดูแลและการใช้ยาอย่างเหมาะสม และเป็นระบบมากกว่าการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

              

นัดหมายปรึกษาแพทย์

iBaby Fertility & Genetic Center
ชั้น 11 อาคารแอทธินี ทาวเวอร์
จันทร์ – เสาร์ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

สอบถามเพิ่มเติม

Tel : +6621688640
Tel : +6621688641
Tel : +6621688642
Tel : +6621688643
Mail : info@iBabyFertility.com
Line : @iBaby