ลูกในครรภ์หายใจยังไง

เคยสงสัยไหมคะว่าทารกในครรภ์ยังไม่หายใจเอาอากาศเข้าออกทางปอดแบบที่เราทำหลังคลอด แต่ก็ยังได้รับ “ออกซิเจน” และ “ขับคาร์บอนไดออกไซด์” อยู่ตลอดผ่านจากคุณแม่ค่ะ

ระบบการหายใจของลูกในครรภ์ทำงานยังไง

รก สายสะดือ,ลูกในครรภ์หายใจยังไง

  1. รก (Placenta) ทำหน้าที่เหมือน “ปอดชั่วคราว” ของลูก
    – โดยคุณแม่จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย และออกซิเจนนี้จะถูกส่งผ่านกระแสเลือดของคุณแม่ไปยังรก
    – ที่รก จะเกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ โดยออกซิเจนจากเลือดแม่จะแพร่ผ่านผนังรกเข้าสู่เลือดของทารก และคาร์บอนไดออกไซด์จากเลือดทารกก็จะแพร่กลับเข้าสู่เลือดแม่

  2. สายสะดือ (Umbilical Cord) เป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงสารต่างๆ
    สายสะดือมีหลอดเลือด 3 เส้น: หลอดเลือดดำ 1 เส้น (Umbilical Vein) และหลอดเลือดแดง 2 เส้น (Umbilical Arteries)
    – หลอดเลือดดำ (Umbilical Vein): ลำเลียงเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจนและสารอาหารจากรกไปยังทารก
    – หลอดเลือดแดง (Umbilical Arteries): ลำเลียงเลือดที่มีคาร์บอนไดออกไซด์และของเสียจากทารกกลับไปยังรก เพื่อให้รกส่งต่อไปยังร่างกายแม่เพื่อขับออก

ดังนั้น ก่อนคลอด ทารกจะได้รับออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านระบบการไหลเวียนเลือดของแม่ โดยมีรกและสายสะดือเป็นตัวกลางสำคัญค่ะ

หลังคลอดปอดของทารกจะเริ่มทำงานจริงจังเป็นครั้งแรกในชีวิต

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากค่ะ:

  • ก่อนคลอด: ปอดยังเต็มไปด้วยน้ำ ออกซิเจนทั้งหมดมาจากแม่ผ่านรกและสายสะดือ

  • หลังคลอด: ปอดจะเริ่มทำงานทันที ซึ่งเสียงร้องไห้แรกเกิดของเด็กจึงสำคัญมาก เพราะนั่นแสดงว่าปอดเริ่มทำงานและถุงลมปอดได้กางออกเพื่อรับอากาศแล้ว

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปอดและระบบไหลเวียนเลือด:

  1. น้ำในปอดจะถูกขับออก:

    • ส่วนหนึ่งถูกขับออกผ่านแรงบีบระหว่างคลอด (โดยเฉพาะการคลอดธรรมชาติ)

    • ส่วนที่เหลือจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่หลอดเลือดและระบบน้ำเหลือง

    • ทารกบางคน (โดยเฉพาะที่คลอดโดยผ่าคลอด) อาจมีน้ำในปอดค้าง ทำให้หายใจลำบากเล็กน้อยช่วงแรก (เรียกว่า Transient Tachypnea of the Newborn – TTN) ซึ่งมักจะดีขึ้นเองในเวลาไม่นาน

  2. ถุงลมในปอด (Alveoli) จะกางออก:

    • เมื่อทารกร้องไห้และหายใจเฮือกแรก ถุงลมเล็กๆ นับล้านในปอดจะกางออกและเติมเต็มด้วยอากาศ

    • จากนั้นก็เริ่มกระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซ: ออกซิเจน (O₂) เข้าสู่กระแสเลือด และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ถูกขับออกทางลมหายใจ

  3. การไหลเวียนของเลือดเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง:

    • หลอดเลือดในปอด: หลอดเลือดที่เคยปิดในปอดจะเปิดออก เพื่อรับเลือดเข้าไปแลกเปลี่ยนก๊าซ

    • รูเปิดในหัวใจ: รูเปิดบางจุดในหัวใจที่เคยช่วยให้เลือดไหลเวียนข้ามปอดไปได้ขณะอยู่ในครรภ์ (เช่น Foramen Ovale และ Ductus Arteriosus) จะค่อยๆ ปิดลง ทำให้เลือดไหลเวียนผ่านปอดเพื่อรับออกซิเจนได้อย่างสมบูรณ์

ระบบควบคุมการหายใจ

สมองของทารก โดยเฉพาะศูนย์ควบคุมการหายใจในก้านสมอง จะสั่งการให้ปอดหายใจอย่างสม่ำเสมอ หากร่างกายมีออกซิเจนน้อยหรือคาร์บอนไดออกไซด์สูง สมองจะกระตุ้นให้ทารกหายใจแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อปรับสมดุล

ถ้าปอดไม่ทำงานทันทีหลังคลอด?

ในบางกรณี ปอดของทารกอาจไม่สามารถทำงานได้ทันทีหลังคลอด ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น:

  • เด็กคลอดก่อนกำหนด: ถุงลมในปอดยังไม่พัฒนาเต็มที่ และอาจขาดสารลดแรงตึงผิวในปอด (Surfactant) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ถุงลมไม่แฟบ

  • ขาดสารลดแรงตึงผิวในปอด (Surfactant): ทำให้ถุงลมปอดไม่สามารถกางออกได้ดี

  • น้ำคร่ำไม่ถูกขับออกหมด: ทำให้ปอดยังมีของเหลวค้างอยู่มาก

ในกรณีเหล่านี้ ทารกอาจต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เช่น การให้ออกซิเจนเสริม การใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือการให้สาร Surfactant ทางท่อช่วยหายใจ เพื่อให้ปอดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                            รักษาผู้มีบุตรยาก, มีบุตรยาก, เด็กหลอดแก้ว

Appointment

iBaby Fertility & Genetic Center
11 Floor, Athenee Tower, Wittayu Road
Mon – Sat 9 am – 4 pm

More Information
Tel : +6621688640
Tel : +6621688641
Tel : +6621688642
Tel : +6621688643
Mail : info@iBabyFertility.com

Line : @iBaby