เคยสงสัยไหมคะว่าทารกในครรภ์ยังไม่หายใจเอาอากาศเข้าออกทางปอดแบบที่เราทำหลังคลอด แต่ก็ยังได้รับ “ออกซิเจน” และ “ขับคาร์บอนไดออกไซด์” อยู่ตลอดผ่านจากคุณแม่ค่ะ
ระบบการหายใจของลูกในครรภ์ทำงานยังไง
รก (Placenta) ทำหน้าที่เหมือน “ปอดชั่วคราว” ของลูก
– โดยคุณแม่จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย และออกซิเจนนี้จะถูกส่งผ่านกระแสเลือดของคุณแม่ไปยังรก
– ที่รก จะเกิดการแลกเปลี่ยนก๊าซ โดยออกซิเจนจากเลือดแม่จะแพร่ผ่านผนังรกเข้าสู่เลือดของทารก และคาร์บอนไดออกไซด์จากเลือดทารกก็จะแพร่กลับเข้าสู่เลือดแม่สายสะดือ (Umbilical Cord) เป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงสารต่างๆ
– สายสะดือมีหลอดเลือด 3 เส้น: หลอดเลือดดำ 1 เส้น (Umbilical Vein) และหลอดเลือดแดง 2 เส้น (Umbilical Arteries)
– หลอดเลือดดำ (Umbilical Vein): ลำเลียงเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจนและสารอาหารจากรกไปยังทารก
– หลอดเลือดแดง (Umbilical Arteries): ลำเลียงเลือดที่มีคาร์บอนไดออกไซด์และของเสียจากทารกกลับไปยังรก เพื่อให้รกส่งต่อไปยังร่างกายแม่เพื่อขับออก
ดังนั้น ก่อนคลอด ทารกจะได้รับออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านระบบการไหลเวียนเลือดของแม่ โดยมีรกและสายสะดือเป็นตัวกลางสำคัญค่ะ
หลังคลอดปอดของทารกจะเริ่มทำงานจริงจังเป็นครั้งแรกในชีวิต
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากค่ะ:
ก่อนคลอด: ปอดยังเต็มไปด้วยน้ำ ออกซิเจนทั้งหมดมาจากแม่ผ่านรกและสายสะดือ
หลังคลอด: ปอดจะเริ่มทำงานทันที ซึ่งเสียงร้องไห้แรกเกิดของเด็กจึงสำคัญมาก เพราะนั่นแสดงว่าปอดเริ่มทำงานและถุงลมปอดได้กางออกเพื่อรับอากาศแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปอดและระบบไหลเวียนเลือด:
น้ำในปอดจะถูกขับออก:
ส่วนหนึ่งถูกขับออกผ่านแรงบีบระหว่างคลอด (โดยเฉพาะการคลอดธรรมชาติ)
ส่วนที่เหลือจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่หลอดเลือดและระบบน้ำเหลือง
ทารกบางคน (โดยเฉพาะที่คลอดโดยผ่าคลอด) อาจมีน้ำในปอดค้าง ทำให้หายใจลำบากเล็กน้อยช่วงแรก (เรียกว่า Transient Tachypnea of the Newborn – TTN) ซึ่งมักจะดีขึ้นเองในเวลาไม่นาน
ถุงลมในปอด (Alveoli) จะกางออก:
เมื่อทารกร้องไห้และหายใจเฮือกแรก ถุงลมเล็กๆ นับล้านในปอดจะกางออกและเติมเต็มด้วยอากาศ
จากนั้นก็เริ่มกระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซ: ออกซิเจน (O₂) เข้าสู่กระแสเลือด และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ถูกขับออกทางลมหายใจ
การไหลเวียนของเลือดเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง:
หลอดเลือดในปอด: หลอดเลือดที่เคยปิดในปอดจะเปิดออก เพื่อรับเลือดเข้าไปแลกเปลี่ยนก๊าซ
รูเปิดในหัวใจ: รูเปิดบางจุดในหัวใจที่เคยช่วยให้เลือดไหลเวียนข้ามปอดไปได้ขณะอยู่ในครรภ์ (เช่น Foramen Ovale และ Ductus Arteriosus) จะค่อยๆ ปิดลง ทำให้เลือดไหลเวียนผ่านปอดเพื่อรับออกซิเจนได้อย่างสมบูรณ์
ระบบควบคุมการหายใจ
สมองของทารก โดยเฉพาะศูนย์ควบคุมการหายใจในก้านสมอง จะสั่งการให้ปอดหายใจอย่างสม่ำเสมอ หากร่างกายมีออกซิเจนน้อยหรือคาร์บอนไดออกไซด์สูง สมองจะกระตุ้นให้ทารกหายใจแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อปรับสมดุล
ถ้าปอดไม่ทำงานทันทีหลังคลอด?
ในบางกรณี ปอดของทารกอาจไม่สามารถทำงานได้ทันทีหลังคลอด ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น:
เด็กคลอดก่อนกำหนด: ถุงลมในปอดยังไม่พัฒนาเต็มที่ และอาจขาดสารลดแรงตึงผิวในปอด (Surfactant) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ถุงลมไม่แฟบ
ขาดสารลดแรงตึงผิวในปอด (Surfactant): ทำให้ถุงลมปอดไม่สามารถกางออกได้ดี
น้ำคร่ำไม่ถูกขับออกหมด: ทำให้ปอดยังมีของเหลวค้างอยู่มาก
ในกรณีเหล่านี้ ทารกอาจต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เช่น การให้ออกซิเจนเสริม การใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือการให้สาร Surfactant ทางท่อช่วยหายใจ เพื่อให้ปอดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Appointment
iBaby Fertility & Genetic Center
11 Floor, Athenee Tower, Wittayu Road
Mon – Sat 9 am – 4 pm
More Information
Tel : +6621688640
Tel : +6621688641
Tel : +6621688642
Tel : +6621688643
Mail : info@iBabyFertility.com