หลายคนคงอยากทำเด็กหลอดแก้วครั้งเดียวติด เพราะนอกจากจะต้องเจ็บตัวจากกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วแล้ว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาอีกด้วย นอกจากนั้นการทำเด็กหลอดแก้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำครั้งเดียวจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกรณีที่ยากและปัญหาเยอะ จึงมีคำถามว่า จะทำยังไงให้ประสบความสำเร็จในครั้งเดียว
เริ่มต้นทำเด็กหลอดแก้ว ต้องแก้ไขที่สาเหตุ
อันดับแรกคือต้องหาสาเหตุของการมีบุตรยากให้ได้ก่อน บางคนไม่ได้มีปัญหาเดียว อาจจะมีหลายปัญหาที่ทำให้มีบุตรยาก ปัญหาดังกล่าวได้แก่
- ปัญหาเรื่องระบบฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนโปรแลคติน ฮอร์โมนเพศชายสูงผิดปกติ
- ปัญหาเรื่องมดลูก เช่น มดลูกบาง มีเนื้องอกมดลูก ท่อนำไข่อุดตัน รังไข่มีถุงน้ำโดยเฉพาะช๊อคโคเลทซีสต์
ปัญหาเหล่านี้ควรจะได้รับการรักษาด้วยยา หรือการผ่าตัด ก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว
ควรตรวจอะไรบ้าง เพื่อให้อัตราการสำเร็จสูงขึ้น
ในขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว นอกจากจะได้รับการกระตุ้นไข่ที่ดีจากหมอที่มีประสบการณ์และชำนาญ รวมทั้งระบบห้องปฏิบัติการหรือห้องแลปที่ดีได้มาตรฐานแล้ว
หลังจากที่เราได้ตัวอ่อนมาในระยะบลาสโตซีสต์
- ควรเลือกทำการตรวจโครโมโซมของตัวอ่อน ซึ่งปัจจุบันการตรวจ NGS (Next Generation Sequencing) เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อันเนื่องมาจากความละเอียด และการแปลผลที่แม่นยำและรวดเร็ว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถาบันนั้นๆ ได้มาตรฐานมากน้อยแค่ไหนด้วย หลังจากที่ได้ตัวอ่อนที่ผ่านการตรวจ NGS ได้เป็นตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติแล้ว เราก็จะทำการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูกต่อไป
- นอกจากนั้นปัจจุบันยังมีวิธีการตรวจที่เรียกว่า ERA ซึ่งเป็นการตรวจเยื่อบุโพรงมดลูก ที่จะบอกได้ว่าวันที่เราย้ายตัวอ่อนมีความเหมาะสม หรือมีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด
- และยังสามารถตรวจ EMMA และ ALICE ซี่งเป็นวิธีการตรวจเพื่อหาการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูกและเชื้อที่เป็นสาเหตุอีกด้วย ถ้าเราพบการอักเสบหรือเชื้อโรค เราควรทำการรักษาก่อนการย้ายตัวอ่อน