ริดสีดวงหลังคลอด ดูแลได้ หายได้ ไม่ต้องกลัว

ริดสีดวงหลังคลอด สามารถพบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอดบุตร โดยเฉพาะคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ เพราะการคลอดธรรมชาติต้องออกแรงเบ่งคลอดเป็นเวลานาน ริดสีดวงหลังคลอดอาจมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีอาการปวด บวม หรือมีเลือดออกขณะขับถ่ายได้ คุณแม่หลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มดูแลรักษาอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลรักษาริดสีดวงหลังคลอดอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณแม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง

ริดสีดวงหลังคลอด

สาเหตุหลักของริดสีดวงหลังคลอด

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้นจะส่งผลให้กล้ามเนื้อในลำไส้คลายตัว การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย

  2. การไหลเวียนเลือดขณะตั้งครรภ์ การไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเด็กทารก มดลูกที่ถูกขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ในอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลเวียนกลับได้ไม่สะดวก เกิดการคั่งของเลือดในบริเวณทวารหนัก

  3. อาการท้องผูก เนื่องจากรับประทานอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด การเบ่งอุจจาระอย่างรุงแรงเมื่อท้องผูก จะเพิ่มแรงดันในช่องท้องและบริเวณทวารหนัก

  4. การเบ่งคลอดบุตร เมื่อมีการออกแรงเบ่งมากๆ เป็นเวลานาน และต่อเนื่องระหว่างการคลอดธรรมชาติ จะเพิ่มความดันต่อเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก ทำให้เส้นเลือดนั้นบวมและโป่งพอง

  5. ทารกมีตัวขนาดใหญ่ ก็อาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อบริเวณอุ้งเชิงกรานและทวารหนักได้

  6. การนั่งหรือยืนนาน ๆ หรือการอยู่ในอิริยาบทเดิมนานๆ ทำให้เลือดไปรวมกันที่ส่วนล่างของร่างกาย ทำให้เกิดการคั่งของเลือดและเกิดอาการริดสีดวงได้

อาการริดสีดวงหลังคลอดที่พบได้บ่อย

  • มีเลือดออกขณะขับถ่าย เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะเห็นเลือดหยดออกมาปนเปื้อนกับอุจจาระ

  • ปวด เจ็บหรือแสบร้อนบริเวณทวารหนัก โดยเฉพาะในระหว่างหลือหลังขับถ่าย บางครั้งอาจปวดตลอดเวลาถึงแม้ไม่ได้ขับถ่าย

  • คันบริเวณทวารหนัก ทำให้รู้สึกหงุดหงิด หรืออยากเกา

  • มีก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก บางครั้งก้อนเนื้อหกกลับเข้าไปเองได้ 

  • รู้สึกเหมือนถ่ายอุจจาระไม่สุด เหมือนมีค้างอยู่ในลำไส้

  • มีเมือกใสๆ หรือเหนียวๆ ปนออกมา

วิธีดูแลเบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร

  1. ทานอาหารที่มีกากใยสูง เน้นเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี จะช่วยทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น

  2. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้ำ 8-10 แก้ว/วัน หรือหากคุณแม่ให้นมบุตรดื่มมากกว่านั้นก็ได้

  3. ออกกำลังกายเบา ๆ เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ได้ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้

  4. ไม่กลั้นอุจจาระ เมื่อรู้สึกปวดท้อง ให้รีบเข้าห้องน้ำทันที

  5. หลีกเลี่ยงการเบ่งแรง ๆ หากเบ่งยากให้ลองเปลี่ยนทางทางโดยยกขาสูงขึ้นเล็กน้อย

  6. แช่น้ำอุ่น เพื่อลดอาการปวดและบวม ประมาณ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง หรือหลังการขับถ่าย จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

  7. ประคบเย็นบริเวณทวารหนักครั้งละ 15-20 นาทีวันละหลาย ๆ ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ

  8. ใช้ยาทาเฉพาะที่หรือยาเหน็บบริเวณริดสีดวงทวาร หากให้นมบุตรอยู่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้ยา

  9. หลังการขับถ่ายควรล้างด้วยน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ ซับเบา ๆ ให้แห้งด้วยกระดาษนุ่ม ๆ 

  10.  หลีกเลี่ยงการเสียดสี ใส่เสื้อผ้าที่สบาย ๆ 

  11.  หลีกเลี่ยงการทำอิริยาบถเดิมนาน ๆ 

  12.  นอนตะแคง จะช่วยลดแรงกดบริเวณทวารหนัก

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์

  • มีเลือดออกมา หรือออกอย่างต่อเนื่อง

  • มีอาการปวดที่รุนแรง หรือไม่ดีขึ้นหากดูแลเบื้องต้นแล้ว

  • อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์หลังคลอด

  • มีก้อนหรือติ่งเนื้อยื่นออกมาและไม่สามารถกลับเข้าไปเองได้

  • มีไข้

 

ริดสีดวงทวารที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะดีขึ้นหรือหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์หลังคลอด โดยเฉพาะหากคุณแม่ดูแลตัวเองดี หลีกเลี่ยงอาการท้องผูก และปรับพฤติกรรมการขับถ่าย หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

 

                              รักษาผู้มีบุตรยาก, มีบุตรยาก, เด็กหลอดแก้ว

Appointment

iBaby Fertility & Genetic Center
11 Floor, Athenee Tower, Wittayu Road
Mon – Sat 9 am – 4 pm

More Information

Tel : +6621688640
Tel : +6621688641
Tel : +6621688642
Tel : +6621688643
Mail : info@iBabyFertility.com

Line : @iBaby