คุณผู้ชายทั้งหลายอาจจะมีความเข้าใจที่ผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ไม่มากก็น้อย เช่น ปริมาณ (semen) ยิ่งเยอะยิ่งดี แสดงว่าแข็งแรง เชื้อดี ทั้งที่จริง ๆ แล้วนั้น คุณอาจจะเป็นคนนึงที่แทบไม่มีอสุจิเลยก็เป็นได้
ข้อเท็จจริง
- น้ำเชื้อ (Semen) และ อสุจิ หรือ สเปิร์ม (Sperm) คือคนละส่วนกัน น้ำเชื้อจะมีลักษณะเป็นของเหลว มีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงตัว และสำหรับสเปิร์มนั้น เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
- กระบวนการผลิตสเปิร์ม ที่เรียกว่าการสร้างสเปิร์ม (spermatogenesis) ใช้เวลาประมาณ 74 วัน
- องค์การอนามัยโลก (WHO) บอกไว้ว่า จำนวนปกติคือ 15 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หรือคิดเป็นอย่างน้อย 39 ล้านตัว ต่อ การหลั่ง 1 ครั้ง
- ผู้ชายจีนผลิตสเปิร์มได้ 70–173 ล้านเซลล์ต่อวัน
- ผู้ชายลาตินผลิตสเปิร์มได้ 231–398 ล้านเซลล์ต่อวัน
- ผู้ชายผิวขาวผลิตสเปิร์มได้ 193–318 ล้านเซลล์ต่อวัน
- จากการเก็บข้อมูลพบว่า ผู้ชายที่ใส่บ็อกเซอร์มีจำนวนสเปิร์มมากกว่าผู้ชายที่ใส่กางเกงใน ถึง 17%
- ไม่ใช่ว่าสเปิร์มทุกตัวที่จะว่ายไปหาไข่ได้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าสเปิร์มจำนวนมากอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่ว่ายไปข้างหน้า หรือแม้แต่จะถอยหลัง
- อายุมีผลต่อคุณภาพสเปิร์ม ยิ่งผู้ชายอายุมากสเปิร์มยิ่งมีแนวโน้มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ลูกที่เกิดมาเสี่ยงเป็นโรคผิดปกติทางยีนได้
ปริมาณและคุณภาพขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการสร้างสเปิร์มในลูกอัณฑะ ซึ่งสภาวะนี้นำไปสู่ความผิดปกติของ รูปร่าง หรือ จำนวน มีอะไรบ้าง
ปัจจัยแวดล้อมภายในร่างกาย
- มีความผิดปกติของโครโมโซม
- เป็นเบาหวาน
- มีฮอร์โมนน้ำนม (Prolactin) สูงมากกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนนี้ ผลิตมาจากต่อมใต้สมอง
- การบาดเจ็บลูกอัณฑะ
- ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชาย (Androgen and Testosterone)
- การบวมของลูกอัณฑะที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อ
- Klinefelter syndrome
- ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
- ลูกอัณฑะไม่เคลื่อนตัวลงมาที่ถุงอัณฑะ
- เส้นเลือดขอดบริเวณถุงอัณฑะ ทำให้รบกวนเลือดที่มาเลี้ยงลูกอัณฑะ อุณหภูมิของลูกอัณฑะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียต่อการผลิตเชื้อ ซึ่งภาวะนี้พบได้ประมาณ 40% ของผู้ชายที่มีปัญหามีบุตรยาก
ปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่ส่งผล
- การสัมผัส เคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เบนซีน (benzenes) โทลูอีน (toluene) ไซลีน (xylene) สารกำจัดวัชพืช (herbicides) ยาฆ่าแมลง (pesticides) ตัวทำละลายอินทรีย์ (organic solvents) วัสดุทาสี และตะกั่ว เป็นเวลานาน อาจทำให้จำนวนน้อย
- การสัมผัสกับโลหะหนัก เช่น ดีบุก สังกะสี ทองแดง ตะกั่ว สารหนู ปรอท อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้เช่นกัน
- การฉายรังสีหรือการเอกซเรย์ การได้รับรังสีสามารถลดการผลิตสเปิร์มได้ อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่การผลิตสเปิร์มจะกลับมาเป็นปกติ และหากได้รับรังสีปริมาณสูง การผลิตสเปิร์มอาจจะลดลงอย่างถาวร
- อุณหภูมิบริเวณลูกอัณฑะร้อนเกินไป อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้การผลิตและการทำงานของบกพร่อง แม้ว่าการวิจัยเรื่องเหล่านี้จะน้อยและไม่สามารถสรุปผลได้ แต่เข้าห้องซาวน่าหรือแช่อ่างน้ำร้อนบ่อย ๆ อาจทำให้จำนวนลดลงชั่วคราว
นอกจากนี้ปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบคือ วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและอายุของฝ่ายชาย ก็มีบทบาทสำคัญต่อภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายชาย
แม้ว่าโดยปกติแล้วร่างกายของผู้ชายจะมีการผลิตสเปิร์ม ที่มีชีวิตได้เพียงพอต่อความต้องการสืบพันธ์ุ แต่บางครั้งปัจจัยและสภาวะบางอย่างส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของสเปิร์ม ซึ่ง “เคลื่อนไหวช้าเกินไป” หรือ “ไม่เคลื่อนไหว” จะตายก่อนที่จะพบกับไข่ จนทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “มีบุตรยาก” ได้นั่นเอง
ไม่วิ่ง วิ่งช้า เพราะอะไร
- น้ำหล่อเลี้ยงเหนียวเกินไปทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่ดี
- การที่เชื้อไม่สามารถเดินทางจากลูกอัณฑะออกมาข้างนอกได้ เป็นสาเหตุประมาณ 10%-20% ของภาวะมีบุตรยากเกิดจากฝ่ายชาย
- สาเหตุที่ปิดกั้นการเดินทางของสเปิร์มอาจเกิดจาก การอุดตันของท่อนำอสุจิจากการทำหมันชาย คือการตัดท่อนำอสุจิของฝ่ายชายนั่นเอง
- ผู้ชายหลายคนที่มีปัญหาเรื่องพันธุกรรม เช่น cystic fibrosis จะไม่มีท่อนำอสุจิ ทำให้มีบุตรยากแต่กำเนิด แต่ยังสามารถผลิตสเปิร์มได้
- ผู้ชายบางคนมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวองคชาติ ซึ่งทำให้มีปัญหาต่อการมีเพศสัมพันธุ์
- ภาวะการไหลย้อนกลับขึ้นไปของสเปิร์ม เข้าไปสู่กระเพาะปัสสาวะ อาจเกิดจากการใช้ยาบางชนิด
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก medicalnewstoday
บทความที่น่าสนใจ
- อยากมีลูก น้ำมะกรูด ช่วยได้จริงไหม ?
- อยากมีลูกแฝดต้องทำยังไง
- ทำหมัน แล้วอยากมีลูก ต้องทำยังไง แก้หมันดีไหม
- เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ ประจำเดือน
- ทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) ทำสวยตอนท้อง แบบไหนที่ห้ามทำ
มีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือนัดหมายแพทย์ ติดต่อคลินิก iBaby ได้ที่ช่องทางด้านล่าง
Line: @iBaby หรือ https://lin.ee/xxIlgyJ
Tel: 021688640-43
Email: info@iBabyFertility.com
Website: https://ibabyfertility.com
WeChat: iBaby_Fertility