รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ เกี่ยวกับการตกไข่

จิรัฏฐ์ วิเชียรพิทยา

บทความโดย

นพ.จิรัฏฐ์ วิเชียรพิทยา

แพทย์เฉพาะทางด้านมีบุตรยากและผ่าตัดส่องกล้อง

ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน

ปัญหาโลกแตกอย่างไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ก็ทำให้โลกเราต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับคำถามนี้อยู่นาน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์พบคำตอบแล้วนะครับ คำตอบคือไก่เกิดก่อน เพราะว่าถ้าหากไม่มีแม่ไก่ ก็ไม่มีการผลิตโปรตีนที่ถูกค้นพบ เป็นโปรตีนที่ช่วยสร้างเปลือกไข่ได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง โดยเร่งการเปลี่ยนแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นผลึกแคลเซียมของเปลือกไข่ โปรตีนตัวนี้มีชื่อว่า Ovocledidine-17 (OC-17)  

Promotion Update

ไข่ของคน เหมือนไข่ของสัตว์อื่นไหม

ยกตัวอย่างไข่คนเปรียบเทียบกับไข่ไก่ ไข่คนต่างจากไข่ไก่ ประการแรกที่มองเห็นชัดเจนก็คือขนาดของไข่ ในขณะไข่คน 0.1 มิลลิเมตร แต่ไข่ไก่รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานขนาดหลายเซนติเมตรเพราะต้องบรรจุเสบียงอาหารในช่วงฟักไข่ด้วย แม่ไก่ผลิตไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่เป็นชุด ๆ ละ 10 ถึง 15 ฟอง ส่งเข้ามายังท่อนำไข่ ไข่ไก่จะสร้างไข่แดงไข่ขาวและเยื่อหุ้ม เมื่อเข้าสู่มดลูกก็จะเริ่มสร้างเปลือกไข่อย่างรวดเร็วโดยโปรตีน OC-17 ไข่ถูกส่งผ่านออกมาช่องคลอด เข้าสู่ทวารรวม (Cloaca) ซึ่งเป็นช่องขับถ่ายและสืบพันธุ์ ก่อนที่จะวางไข่ สังเกตว่าฟองไข่ตามท้องตลาดอาจจะเปื้อนขี้ไก่อันเนื่องจากผ่านทางร่วมนี้แหละ หากไข่ไก่มีการปฏิสนธิแม่ไก่ต้องฟักไข่เพื่อรักษาอุณหภูมิคงที่ 37 องศาเซลเซียส นาน 3 สัปดาห์ ตัวอ่อนเจริญเป็นลูกเจี๊ยบ จิกเปลือกไข่ให้แตกออกมา สรุปข้อแตกต่างอีกอันหนึ่งคือไข่ไก่ฟักนอกร่างกายคุณแม่ไก่ แต่ไข่คนไม่เป็นอย่างนั้นนะครับ 

ไข่คนเมื่อปฏิสนธิแล้ว ตัวอ่อนจะฟักเมื่ออายุตัวอ่อนหลังปฏิสนธิวันที่ 6 ถึงวันที่ 7 ฟักตัวออกจากเปลือกไข่ ก่อนที่จะฝังตัวเองลงไปในโพรงมดลูก พัฒนาเป็นถุงตั้งครรภ์เพื่อเจริญเติบโตเป็นทารก ก่อนที่จะคลอดออกมาดูโลก ถ้าคลอดธรรมชาติก็จะผ่านปากมดลูก ช่องคลอด และปากช่องคลอด ดังที่กล่าวไว้ในเรื่องอวัยวะเพศแล้ว

สงสัยหรือไม่ว่า ไข่ของคนเรา มาจากไหน อย่างไร

โดยภาพรวม ทุก ๆ รอบระดู หรือรอบเดือนของคนเราประมาณ 21 วัน ถึง 35 วัน เฉลี่ย 28 วัน จะมีการทำงานร่วมกันอย่างสลับซับซ้อนของต่อมใต้สมอง รังไข่ซึ่งมีเซลล์ไข่กับเซลล์อื่น ๆ และโพรงมดลูกเพื่อทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการรองรับการตกไข่ การปฏิสนธิของเซลล์ไข่กับอสุจิ และฝังตัวของตัวอ่อนในเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดเป็นการตั้งครรภ์ในที่สุด

การตกไข่ คืออะไร เป็นอย่างไร 

ในสตรี การตกไข่ (Ovulation) ที่เกิดขึ้นทุกเดือน จะมีการทำงานของต่อมใต้สมอง หลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า FSH (Follicle Stimulating hormone) เพื่อไปบอกรังไข่ ซึ่งมีฟองไข่ (Follicles) รอคอยอยู่ เมื่อฟองไข่โตขึ้น ก็จะผลิตและหลั่งเอสโตรเจน ซึ่งไปกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกเตรียมพร้อมในการตั้งครรภ์ นับจากวันที่ 7 ของรอบเดือน ฟองไข่มากมายในชุดนั้นจะหยุดโตเพื่อให้ฟองไข่เพียงฟองเดียวเท่านั้นที่เจริญเติบโตต่อไปจนเต็มที่เพื่อเลี้ยงเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์ เมื่อเอสโตรเจนหลั่งออกมามากขึ้นในกระแสเลือดเดินทางไปทั่วร่างกาย รวมถึงผ่านไปที่ต่อมใต้สมอง จึงบอกและสั่งต่อมนี้ให้หลั่งฮอร์โมน LH (Luteinizing Hormone) ฮอร์โมนตัวนี้กลับมาที่รังไข่ ทำให้ฟองไข่และเซลล์ไข่เจริญวัยอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะตกไข่ ฮอร์โมน LH จะมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกว่า LH surge เซลล์ไข่ที่เกาะอยู่ที่ผนังของฟองไข่จะดีดตัวหลุดออก ล่องลอยในฟองไข่เตรียมออกมา ฟองไข่หลั่งเคมีให้ท่อนำไข่ กระเถิบมาใกล้ฟองไข่เตรียมตัวรอคอย ฟองไข่บวมเป่งขึ้นจนแตกและฉีดเซลล์ไข่พร้อมน้ำหล่อเลี้ยงในฟองไข่ ออกมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน สวนล่างช่องท้อง ปลายท่อนำไข่ซึ่งมีลักษณะเป็นซี่ ๆ ยื่นออกมาคล้ายนิ้วมือ คอยกวาดและหยิบตรงบริเวณรอยปริแตกของฟองไข่ และเก็บไข่เข้าไปในท่อนำไข่ เซลล์ไข่ถูกส่งตามท่อด้วยแรงการเคลื่อนตัว การบีบรัดกล้ามเนื้อ นำพาเซลล์ไข่เดินทางไปถึงมดลูก ชะตากรรมของมันมี 2 อย่าง คือ

  1. ปฏิสนธิกับอสุจิ ที่ท่อนำไข่ กลายเป็นตัวอ่อนที่เจริญเติบโตขึ้น จนกลายเป็นทารกที่รอวันคลอดในที่สุด
  2. ไม่เจออสุจิ ก็จะถูกส่งเข้ามดลูกและสลายตัวเป็นเศษซากเซลล์ ถูกดูดซึมกลับเข้าร่างกายหรือออกมากับเลือดระดู
ตกไข่ตอนไหน

ตกไข่ตอนไหน

เราสามารถทราบหรือไม่ว่า เราตกไข่เมื่อไหร่ ส่วนมากไม่ทราบว่าตกไข่วันไหน ไม่ทราบว่าตกไข่เมื่อไหร่ ยกเว้นว่าได้รับการตรวจหลังจากที่ตกไข่ไปแล้ว และเนื่องจากรังไข่มีสองข้างอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน จึงไม่อาจจะทราบว่าเราตกไข่ข้างไหน ข้างซ้ายหรือข้างขวา ยกเว้นว่าในช่วงเวลาตกไข่ สามารถสังเกตได้ถึงอาการปวดบิด ๆ ที่บริเวณท้องน้อย อาจจะสังเกตได้ว่าอยู่ฝั่งใด ซ้ายหรือขวา เราเรียกอาการปวดที่เกิดขึ้นตอนตกไข่ว่า มิทเทลชเมิร์ช (Mittelschmerz) แปลง่าย ๆ ว่าอาการปวดกลางรอบระดู

เมื่อไหร่ไข่ถึงจะเจออสุจิ

การปฏิสนธิ (Fertilization) เซลล์ไข่จะดำรงชีวิตอยู่ได้เพียง 12 ถึง 24 ชม. เพื่อรอการปฏิสนธิ เอสโตรเจนที่สูงขึ้นในเลือดก่อนไข่ตก จะทำให้มูกปากมดลูกมีลักษณะใส อุดมด้วยโปรตีน ฉาบที่ปากมดลูก ทำให้ช่องคลอดมีสภาพเป็นกรด  สภาพแบบนี้ช่วยป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคอื่น ๆ เมื่อมีเพศสัมพันธ์และหลั่งน้ำอสุจิ (Semen) อสุจิ (Spermatozoa) สามารถว่ายเข้าในปากมดลูก ผ่านมดลูกเข้าสู่ท่อนำไข่ และดำรงอยู่ได้ถึง 5 วัน เพื่อรอคอยไข่ เมื่อไข่ตกมาแล้ว เซลล์ไข่มีเซลล์ติดอยู่อย่างเหนียวแน่นล้อมรอบ ทำให้ปลายท่อนำไข่เก็บกวาดได้ง่ายไม่ลื่นหลุดไป 

เมื่อเซลล์ไข่เจอกับอสุจิ อสุจิต้องย่อยสลายเซลล์ล้อมรอบเสียก่อน อสุจิหลายตัวติดที่เปลือกและผนังเซลล์ไข่ด้านนอก มีเพียงตัวเดียวสามารถเจาะเปลือกและผนังไข่เข้าไปปฏิสนธิได้ หลังจากปฏิสนธิ มีการรวมตัวกันของไข่และอสุจิ แบ่งเซลล์อย่างรวดเร็วกลายเป็นตัวอ่อน มีการหลั่งเคมีเพื่อยับยั้งอสุจิตัวอื่น ไม่ให้เจาะเปลือกไข่เข้าไปเพิ่มอีก

เวลา 4-5 วันนับจากนี้ ก็จะเคลื่อนเข้าสู่โพรงมดลูก ตัวอ่อนเดินทางไปด้วยในขณะเดียวกันก็แบ่งเซลล์ไปด้วย ขณะที่ฟองไข่ที่รังไข่ซึ่งแตกออกและปล่อยเซลล์ไข่ออกไปแล้วนั้น กลายสภาพเป็น Corpus luteum ผลิตโปรเจสเตอโรน หลั่งเข้ากระแสเลือด และผ่านไปที่มดลูก เปลี่ยนสภาพเยื่อบุให้เหมาะสมกับการฝังตัวอ่อน (Implantation) จากนั้นเซลล์ของการตั้งครรภ์เริ่มส่งสัญญาณไปที่ฟองไข่ให้คงอยู่ เพื่อยืดอายุและเพิ่มการสร้างฮอร์โมนโปรเจสโตอโรน 

Promotion Update

อยากตั้งครรภ์ ทำอย่างไร

มีเพศสัมพันธ์ตามปกติในช่วงเวลาที่เหมาะสม ภายใน 5 วันก่อนตกไข่ ดังนั้นการกำหนดระยะเวลาเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่จะมีโอกาสปฏิสนธิมากสุดนั้น จึงอยู่ที่ความยาวรอบระดู (Interval) ของสตรีแต่ละคน การคำนวณวันตกไข่จึงอาศัย

1.การคำนวณรอบระดู จากการจดบันทึกรอบระดูก่อน ๆ คาคคะเนวันแรกของรอบถัดไป นับย้อนกลับมา 14-16 วัน ก็จะเป็นวันตกไข่ อันดับต่อไปอาจจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของมูกปากมดลูก (Cervical Mucus Change) ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในช่วงตกไข่ อย่างไรก็ตามอายุมากขึ้น ปริมาณมูกอาจจน้อยลงจนสังเกตได้ยาก การมีมูกก็ไม่ได้แปลว่าจะมีการตกไข่ทุกรอบ   

2.การวัดอุณหภูมิร่างกายพื้นฐานกับการเปลี่ยนแปลง หรือ Basal Body Temperature (BBT) หากมีการตกไข่ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะทำให้อุณหภูมิขึ้น 0.5 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามบางคนอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจึงใช้วิธีนี้ไม่ได้ การวัดอุณหภูมิอาจจะมีความยุ่งยาก หากวัดไม่ถูกวิธิทำให้แปลผลยาก  

3.การตรวจฮอร์โมนการตกไข่ เรียกว่า Urine LH test หรือ Ovulation Predictor Kits (OPK) ควรเลือกแบบใหม่ซึ่งเป็นลักษณะ Non-threshold based หรือ Semi-Quantitative test เพื่อให้ติดตามแนวโน้มการตกไข่ได้ดีขึ้น โดยใกล้วันตกไข่จะให้ผลบวกอ่อน ๆ (weakly positive) ก่อนจะให้ผลบวกชัดเจน ก่อนตกไข่ 24-48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากเลือกชุดตรวจไม่เหมาะสม ก็ทำให้แปลผลคาดคะเนวันตกไข่ได้ยาก หรือในคนที่ไม่มีไข่ตกอาจจะพบผลบวกอยู่หลายวัน

อยากตั้งครรภ์

หากคุมกำเนิดมาก่อน แล้วอยากตั้งครรภ์

ถ้ากำลังคุมกำเนิดอยู่ก็ให้หยุดการคุมกำเนิดเสียก่อน ในทางปฏิบัตินั้นแนะนำว่า หากใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral Contraceptive Pills) มาก่อน ก็ให้หยุดเพื่อให้มีระดูสัก 3 รอบถ้าเป็นไปได้ เหตุผลก็เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพเป็นปกติเสียก่อน สตรีแต่ละคนก็มีปัจจัยภายในที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าหากใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่แล้วบังเอิญตั้งครรภ์ก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาอะไร 

เมื่อไหร่ต้องปรึกษาแพทย์

หากพยายามด้วยวิธีดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี การรอต่อไปพบว่าไม่เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ หรือแปลว่าไม่มีประโยชน์ที่จะลองอีกต่อไป ควรเข้ารับการปรึกษาทีมแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจหาสาเหตุและแก้ไขตามสภาพของแต่ละคู่สมรส 

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก  CNN, thewomen, myclevelandclinic

Promotion Update

บทความที่น่าสนใจ

มีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือนัดหมายแพทย์ ติดต่อคลินิก iBaby ได้ที่ช่องทางด้านล่าง

Line: @iBaby หรือ https://lin.ee/xxIlgyJ​
Tel: 021688640-43
Email: info@iBabyFertility.com
Website: https://ibabyfertility.com
WeChat: iBaby_Fertility